เวสด้า
สุนับสายพันธุ์รีทรีฟเวอร์จัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นเรื่องความสามารถในการดมกลิ่นที่เป็นเลิศ จึงมีการนำสุนัขสายพันธุ์รีทรีฟเวอร์ไม่ว่าจะเป็นลาบราดอร์ หรือโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ไปช่วยงานด้านการดมกลิ่น เช่น การใช้เป็นสุนัขตำรวจเพื่อค้นหาสิ่งเสพติดหรือวัตถุระเบิด แม้กระทั่งกลิ่นของวัตถุที่เป็นหลักฐานในคดีความต่างๆ เนื่องจากความสามารถในการจำกลิ่นที่เป็นเลิศของมันนี่เอง
ในเรื่องของการป้องกันอัคคีภัยนั้น หากเรามีอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการตรวจจับกลิ่นไหม้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่นเดียวกับความสามารถในการดมกลิ่นของเจ้ารีทรีฟเวอร์แล้ว เราย่อมมีเวลาเพียงพอที่จะตรวจสอบและป้องกันมิให้เหตุการณ์เพลิงไหม้ลุกลามได้ สิ่งที่เราต้องการคืออุปกรณ์แจ้งเหตุพลิงไหม้ที่มีความไว |
|
|
|
|
|
|
"เวสด้าเป็นระบบหนึ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีประสิทธิภาพและความเที่ยงตรงสูงที่สุดในปัจจุบันนี้ และนับเป็นผู้คิดค้นและผลิตระบบตรวจจับควันชนิดใช้ท่อสุ่มสำรวจดูดควันขึ้นเป็นรายแรกของโลก เวสด้าเหมาะกับสถานที่ที่มีความสำคัญ ซึ่งต้องการความไวในการตรวจจับควันสูง
จวบจนวันนี้ เวสด้าได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งใช้งานในหน่วยงานสำคัญมากมายทั่วโลกกว่า 50,000 ระบบ" |
|
|
|
|
|
|
|
|
รูปข้างบนน่าจะเป็นบทสรุปที่ดีที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงสาเหตุที่เราต้องเลือกใช้เวสด้าแทนที่จะใช้อุปกรณ์ตรวจจับควันระบบอื่น เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดกับอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยมีผลสรุปว่าการเกิดอัคคีภัยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มแรกซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นควัน ได้ด้วยตาเปล่า ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เราสามารถสังเกตุเห็นควันได้ด้วยตาเปล่าใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ระยะที่ 3 เป็นระยะที่เริ่มเกิดเป็นเปลวไฟจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีอีกเช่นกัน
ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายเป็นระยะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามจนยากแก่การควบคุม
จากความเป็นจริงของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว จะเห็นว่าจะมีประโยชน์มากหากเราสามารถทราบเหตุเพลิงไหม้ได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 ซึ่งเรามีเวลาเตรียมพร้อมหรือค้นหาต้นเหตุของไฟไหม้และระงับได้ทันเนื่องจากระยะนี้จะกินเวลาถึง 5 ชั่วโมง ส่วนการรู้ถึงความผิดปกติที่ระยะที่ 2 ขึ้นไปนั้น ดูจะเป็นการเปล่าประโยชน์เนื่องจากเพลิงได้ลุกลามไปมากแล้ว ยากแก่การควบคุม จึงเป็นสาเหตุที่มีการคิดค้นระบบเวสด้าขึ้นมาเพื่อให้สามารถตรวจจับควันได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 ส่วนเครื่องตรวจจับควัน แบบธรรมดาจะทำงานที่ระยะที่ 2 ซึ่งสายเกินไปที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
เราสามารถเปรียบเทียบความไวของเครื่องตรวจจับควันชนิดต่างๆได้ดังนี้
Vesda: 0.005-20% Obscuration per metre
Ionization: 3.0-11% Obscuration per metre
Photoelectric: 6.0-15% Obscuration per metre
Beam: 3.0% obscuration per metre
จะเห็นว่าเวสด้าสามารถปรับความไวให้ไวกว่าเครื่องตรวจจับควันแบบอื่นได้เกือบหนึ่งพันเท่า นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเวสด้าจึงสามารถแจ้งเตือนอัคคีภัยได้ก่อนล่วงหน้า
หมายเหตุ: หน่วย obscuration per metre คือค่าเปอร์เซ็นต์ความบดบังการมองเห็นของเราที่ระยะ 1 เมตร เช่น ค่า 100% obscuration per metreหมายถึงเราจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าที่ระยะ 1 เมตรเลย แต่อาจจะยังมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้กว่าระยะ 1 เมตร |
|
|
|
|
|
|
|
|