|
|
||||||||||||||||||||||
การทำงาน
ก่อนที่ Pyrogen
จะถูกฉีดออกมานอกถังจะถูกดูดซับความร้อนที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาเคมีด้วย Chemical
Coolant ที่ถูกบรรจุอยู่ในถัง Pyrogen นอกจากนั้น Chemical Coolant
ยังทำหน้าที่จัดเรียงสาร Pyrogen ที่ถูกฉีดออกมาให้มีความสม่ำเสมอด้วย |
|||||||||||||||||||||||
VESDA | |||||||||||||||||||||||
เวสด้า (ย่อมาจาก Very Early Smoke Detection Apparatus V E S D A) หมายถึงอุปกรณ์ตรวจจับควันที่สามารถตรวจจับควันได้ก่อนล่วงหน้า ซึ่งตามจริงแล้ว เครื่องเวสด้าก็สามารถทำงานได้ตามความหมายของมันจริงๆ โดยเมื่อเราปรับความไวของเครื่องให้ไวมาก (สามารถปรับความไวให้ไวมากหรือช้ามากก็ได้ตามสภาพอากาศของห้อง) เครื่องจะสามารถตรวจจับควันได้ตั้งแต่ระยะที่เรายังมองไม่เห็นควันได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการเกิดเพลิงไหม้ เช่นเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจนฉนวนหุ้มสายไฟฟ้าร้อนจนหลอมเป็นไอลอยเข้าไปในระบบสุ่มสำรวจของเวสด้า เครื่องเวสด้าก็จะแจ้งเตือนให้เราทราบโดยทันที เราจึงมีเวลาพอที่จะเข้าไปตรวจ | |||||||||||||||||||||||
สอบและระงับสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ทันก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเหตุการณ์เพลิงไหม้ใหญ่โตจนยากแก่การควบคุมระบบเวสด้าจะเป็นลักษณะการเดินท่อสุมสำรวจจากเครื่องตรวจจับควันเพียงเครื่องเดียวซึ่งภายในมีปั๊มดูดอากาศ
ไปยังส่วนต่างๆของพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อดูดอากาศจากพื้นที่เหล่านั้นเพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ในเครื่องตรวจจับควัน
เราสามารถเรียกชื่อระบบเวสด้าได้อีกชื่อหนึ่งคือระบบตรวจจับควันแบบใช้เครือข่ายท่อสุ่มสำรวจดูดอากาศ
(Aspirating Smoke Detector) รูปข้างบนน่าจะเป็นบทสรุปที่ดีที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงสาเหตุที่เราต้องเลือกใช้เวสด้าแทนที่จะใช้อุปกรณ์ตรวจจับควันระบบอื่น เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดกับอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยมีผลสรุปว่าการเกิดอัคคีภัยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มแรกซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นควัน ได้ด้วยตาเปล่า ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เราสามารถสังเกตุเห็นควันได้ด้วยตาเปล่าใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระยะที่ 3 เป็นระยะที่เริ่มเกิดเป็นเปลวไฟจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีอีกเช่นกัน ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายเป็นระยะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามจนยากแก่การควบคุม จากความเป็นจริงของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว จะเห็นว่าจะมีประโยชน์มากหากเราสามารถทราบเหตุเพลิงไหม้ได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 ซึ่งเรามีเวลาเตรียมพร้อมหรือค้นหาต้นเหตุของไฟไหม้และระงับได้ทันเนื่องจากระยะนี้จะกินเวลาถึง 5 ชั่วโมง ส่วนการรู้ถึงความผิดปกติที่ระยะที่ 2 ขึ้นไปนั้น ดูจะเป็นการเปล่าประโยชน์เนื่องจากเพลิงได้ลุกลามไปมากแล้ว ยากแก่การควบคุม จึงเป็นสาเหตุที่มีการคิดค้นระบบเวสด้าขึ้นมาเพื่อให้สามารถตรวจจับควันได้ตั้งแต่ระยะที่ 1 ส่วนเครื่องตรวจจับควัน แบบธรรมดาจะทำงานที่ระยะที่ 2 ซึ่งสายเกินไปที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ เราสามารถเปรียบเทียบความไวของเครื่องตรวจจับควันชนิดต่างๆได้ดังนี้ Vesda: 0.005-20% Obscuration per metre Ionization: 3.0-11% Obscuration per metre Photoelectric: 6.0-15% Obscuration per metre Beam: 3.0% obscuration per metre จะเห็นว่าเวสด้าสามารถปรับความไวให้ไวกว่าเครื่องตรวจจับควันแบบอื่นได้เกือบหนึ่งพันเท่า นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเวสด้าจึงสามารถแจ้งเตือนอัคคีภัยได้ก่อนล่วงหน้า หมายเหตุ: หน่วย obscuration per metre คือค่าเปอร์เซ็นต์ความบดบังการมองเห็นของเราที่ระยะ 1 เมตร เช่น ค่า 100% obscuration per metreหมายถึงเราจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าที่ระยะ 1 เมตรเลย แต่อาจจะยังมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้กว่าระยะ 1 เมตร อ่านต่อ
|